หลุมศพ..หากเป็นการขุดดินเพื่อจะฝังกลบซากศพของคนตายแบบธรรมดาๆ มันก็เป็นเรื่องธรรมดา            แต่หากว่ามันเป็นประเพณีและวัฒนธรรมแห่งความเชื่อของชาวจีนที่นับถือต่อกันนับพันนับหมื่นปี ในเรื่องของศาสตร์ดวงวิญญาณว่า ทางที่จะทำให้ผู้เสียชีวิตไปแล้วนั้นอยู่เย็นเป็นสุข สบาย ๆ ตามศาสตร์เก่าแก่นั้น ต้องเป็นไปตาม ตำราฮวงจุ้ย             ฮวงจุ้ย เป็นวิชาที่ว่าด้วยเรื่องทิศทาง ลม และ น้ำ  และหากจะให้ละเอียดกันถึงขนาดหนักแล้วละก็ถึงขนาดซินแส หรือ หมอ นั้นจักต้องออกไปนั่งกลางแดดกลางลมทั้งกลางวันกลางคืน เพื่อจะได้รู้ว่า...             ตรงไหนเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นบริเวณของที่ฝังศพ แล้วทำให้ดวงวิญญาณนั้นอยู่อย่างสบาย ๆ... นั่นเป็นการเกื้อกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ....แม้ว่าจะล่วงลับไปแล้ว             แค่นั้นยังไม่พอ..ผลของการที่ฝังศพของปู่ย่าตายายพ่อแม่พีน้องที่ถูกต้องตามศาสตร์ฮวงจุ้ย  นั้น อาจจะส่งผลให้กับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ลูกหลานเหลน ให้อยู่เย็นเป็นสุขได้            ศาสตร์แห่ง ฮวงจุ้ย มิได้นิยมกันอยู่เพียงพื้นที่แห่งผืนแผ่นดินใหญ่เท่านั้น นับวันนับปียิ่งนานยิ่งเข้ายิ่งแพร่หลายแพร่ขยายไปทั่วโลก เมืองไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น ได้แพร่เข้ามาและเกิดความเลื่อมใสกันไปทั่ว            และก็มิใช่จะเอามาใช้เพียงแค่กับคนตายเท่านั้น ยังมีอิทธิพลต่อคนเป็นและความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันที่จะสามารถดลบันดาลให้อยู่เย็นเป็นสุขด้วยพลังเร้นลับนี้             ...อย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้!!!!            นายเม้งเจีย แซ่ตั้ง อายุ 48 ปี มีอาชีพขายของชำอยู่ในตลาดสดเทศบาลเมืองนนทบุรี เป็นคนเชื้อสายแต๊จิ๋วคนหนึ่งที่ทำตนไม่เชื่อไม่ศรัทธาและปฏิบัติตามศาสตร์และกรรมวิธีของ ฮวงจุ้ย โดยยึดถือเอาความขยันเป็นกฎเกณฑ์ในการปฏิบัติตนบนเว้นทางทำมาหากิน           คือตื่นแต่เช้าออกมาเปิดร้านค้า เก็บเล็กผสมน้อย กว่าจะกลับบ้านปิดร้านก็มืด ปฏิบัติเช่นนี้มาเป็ฯเวลานับสิบ ๆ ปี ซึ่งว่าไปแล้วการเก็บเงินเก็บทองมาเป็นระยะเวลานานมากขนาดนี้ น่าจะอยู่ในฐานะเศรษฐีขนาดย่อมๆ หรือ ใหญ่ไปแล้ว           จนมีวันหนึ่งไม่รู้ว่ามีคนจีนสูงอายุคนหนึ่งมาจากไหนไม่รู้บอกว่า " อาเม้งเอ้ย ลื้อทำมาค้าขายจนตาย ก็ไม่รวย เพราะร้านของลื้อนั้น ไม่ถูกกับฮวงจุ้ยว่ะ "           เล่นเอาเขางง..และพอได้สติจะถามว่าแล้วจะให้ถูกกับฮวงจุ้ยนั้นทำอย่างไร ชายแก่คนนั้นก็เดินหายไปกับฝูงชนในตลาดนั้นไปแล้ว...เขาวิ่งออกไปตามหาก็ไม่เจอ              จากวันนั้น" เม้งเจีย แซ่ตั้ง " เริ่มคิดอะไรบางอย่างแล้วก็หยุดงานขายของชำ ซึ่งตอนนั้นก็อยู่ในฐานะร่อแร่ ล้มลุก คลุกคลาน ปล่อยให้เมียเป็นคนทำงานค้าขายกับลูกๆเหมือนตัดช่องน้อยแต่พอตัว "...ไม่ใช่ผมเอาเปรียบครอบครัว นะครับ แต่มีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะศึกษาดูว่า วิชาโหร วิชาฮวงจุ้ยที่ยึดถือกันมานี้ มันจะดีจริงหรือไม่ มันจะเชื่อถือได้หรือไม่ " ก็ได้หาซื้อตำราโหราศาสตร์ และโหงวเฮ้ง ต่าง ๆ ไม่ว่าครูไหน อาจารย์ไหน ไทย จีน ฝรั่ง เขียนขึ้นแต่งขึ้น จะเป็นอาจารย์ดังหรือไม่ดัง เอามาอ่านเอามาท่อง นำมาเปรียบเทียบดูว่า..อันไหนจริงอันไหนเท็จ และเป็นไปได้แค่ไหน            ซินแสคลังจินดา คลังเงินตรา ได้เอาวิชาฮวงจุ้ยมาใช้ประโยชน์ในการการแก้เคล็ดในสิ่งที่ไม่ดีให้เกิดเป็นสิ่งมงคลได้อย่างที่ร้านเขานั้น ตรงกลางร้านจะมีเสาเป็นเหลี่ยม ซึ่งเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง มิใช่ว่าเสาที่เป็นเหลี่ยมนั้นจะไม่ดีเสมอไป มันเป็นบางจุดตามตำราว่า เขาก็แก้เคล็ดที่จะให้เสานั้นกลม ด้วยการเอาฟองน้ำมาหุ้ม..             และจากนั้นที่ร้านก็ทำมาค้าขายดีขึ้น ร่ำรวยทันตาเห็นและสามารถที่จะซื้อบ้านพักใหม่หลังใหญ่โตให้ครอบครัวอยู่อาศัยอย่างเป็นสุข แต่ตัวเขานั้นก็ยังทำตนอย่างเดิม กั้นห้องเล็กๆ พื้นที่ประมาณ 3 ตาราเมตร อยู่ข้างร้านขายของชำ ขายขนมสุธีระในตลาดสดเทศบาลนนท์ อันเป็นอาชีพและแหล่งทำมาหากินเก่าของเขา (พื้นที่ตรงนั้นอาจจะถูกโฉลก หรือ ถูกกับฮวงจุ้ยของเขาก็เป็นได้ จึงไม่ย้ายไปไหน             ในศาสตร์ลึกลับ ใต้ฟ้า เหนือบาดาล นี้ ซินแส คลังจินดา คลังเงินตรา ได้เล่าว่า เขาได้ใช้วิชาฮวงจุ้ยแนะนำให้นักธุรกิจคนหนึ่ง ซึ่งมีปัญหาหนี้สินกว่า 10 ล้านบาท ได้แก้เคล็ดในเรื่องบ้านเรือนที่อยู่ และต่อมาธุรกิจก็ดีขึ้นมากกลับเป็นเศรษฐีดั่งเดิมได้             ในศาสตร์ของ ฮวงจุ้ย นี้ ใช่เฉพาะในเรื่องลมและน้ำ เท่านั้น จะรรวมไปหมดแม้กระทั่งทำเลดิน หิน ต้นไม้ เครื่องประดับ ฯลฯ ก็เข้ามามีส่วนพัวพันกับ ฮวงจุ้ย             ในการแก้เคล็ดการแก้ทางการทำอะไรที่ไม่ถูกต้องตามศาสตร์เร้นลับนี้ เขาจะเพียงแต่แนะนำแล้วให้เจ้าตัวทำเอาเอง ไม่เหมือนหมอสะเดาะเคราะห์ และเครื่องอะไรให้แล้วคิดเงินคิดทอง อะไรเทือกนั้น            ซินแสคลังจินดา คลังเงินตรานี้ ไม่เรียกร้องคำแนะนำค่าตอบแทนเป็นการพาณิชย์ ซึ่งติดต่อได้ทั้งที่ร้านและทางโทรศัพท์ 02-526-1096 เขาได้เปิดเผยว่า            " ก็มีบ้างเป็นบางรายที่เขารับคำแนะนำจากเราไปแล้วเขาร่ำรวย ก็นำเงินปัจจัยมาตอบแทนเป็นสินน้ำใจ มันก็เป็นเรื่องของเขาที่เขาจะมองเห็นบุญคุณเรา " ผู้ที่มาปรึกษาตามตำรากับซินแสนี่ หาใช่เฉพาะในย่านใกล้เคียงเมืองนนท์ กรุงเทพฯ นี้เท่านั้น นอกจากจะมาจากต่างจังหวัดไกลแล้ว ยังมีจากต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ซาอุดิฯ และ ไทเป ก็ยังมาปรึกษารับคำแนะนำ            และในขณะที่กำลังจับเข่าคุยกับ ซินแส คลังจินดา คลังเงินตรา อยู่นั้น เสียงอีซี่คอลของเขาก็ดังขึ้น พอเขากดดูก็มีข้อความขึ้นว่า           มาจากอดีตรัฐมนตรีผู้หนึ่งที่มีชื่ออักษรย่อตัว ป. อยู่ย่าน ลาดพร้าว ซอย 24  ให้เขาเดินทางไปหาเพื่อที่จะปรึกษาเรื่องแก้เคล็ดฮวงจุ้ย ในจุดจุดหนึ่งของบ้าน...เพื่อให้เป็นสิริมงคล           ซินแสสมถะผู้นี้เลยขอตัวไปให้คำปรึกษากับผู้หลักผู้ใหญ่ท่านนั้นทันที           ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า การปรึกษาครั้งนี้จะใช้เคล็ดเพื่อเอาไปต่อสู้กับ "จิ้งเขียว"หรือไม่ ..??